Search for:
  • Home/
  • Games News/
  • ข่าวดังข้ามปี 2566 – “เสี่ยแป้ง” แหกคุก หนีกระสุน สู่การร้องขอความเป็นธรรม

ข่าวดังข้ามปี 2566 – “เสี่ยแป้ง” แหกคุก หนีกระสุน สู่การร้องขอความเป็นธรรม

กลายเป็นข่าวที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนในสังคมไม่น้อย จากกรณีการหลบหนีของ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หรือ นักโทษชาย เชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี นักโทษคดีใหญ่หลายคดีในภาคใต้ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช

สบโอกาสช่วงเจ้าหน้าที่เรือนจำนำตัวไปพบแพทย์เพื่อทำทันตกรรม แสร้งหมดสติ-ขาอ่อนแรง แพทย์จึงสั่งให้นอนดูอาการ ที่ชั้น 6 โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนอาศัยช่วงเจ้าหน้าที่เผลอหลบหนีจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการแหกคุก-หนีกระสุน สู่การร้องขอความเป็นธรรม

ผบ.ตร.เผย “เสี่ยแป้ง”อยู่มาเลย์ เชื่อหลังปีใหม่มอบตัว คำพูดจาก สล็อตวอเลทล่าสุด

ขอหมายแดงตำรวจสากล! ไล่ล่า"เสี่ยแป้ง" คาดหนีซุกมาเลเซีย

ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต 'เสี่ยแป้ง' กับพวกร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่

“เสี่ยแป้ง” คือใคร..?

โดย “เสี่ยแป้ง” เป็นชาวตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง มีอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถ อยู่ในพื้นที่ตำบลท่าแค ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถชื่อดังที่คนพัทลุงรู้จักกันดี และนับเป็นคนดังคนหนึ่ง มีประวัติทั้งลงเล่นการเมืองท้องถิ่น และชื่อดังในทางนักเลง โดยลูกน้องส่วนใหญ่ของ “เสี่ยแป้ง” มักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอาวุธปืน จนมีคดีความอยู่หลายคดี

ทั้งนี้ “เสี่ยแป้ง” เคยลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง เมื่อปี 2562 แต่สอบตก นอกจากนั้นยังประวัติอาชญากรรมของ “เสี่ยแป้ง” พบว่ามีคดีความในชั้นศาลอยู่หลายคดี แต่คดีที่ทำให้ “เสี่ยแป้ง” ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี 6 เดือน คือคดีที่ร่วมกับพวกเข้าปล้นผู้ต้องหาจากตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด และยังมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด คดีอาวุธปืน และคดีความรุนแรงอีก 11 คดี

ปี 2550 มี 2 คดี คือ ก่อเหตุฆ่าผู้อื่น ฆ่าตำรวจ เหตุเกิด สภ.เมืองพัทลุง และคดีครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน

ปี 2551 มี 2 คดี คือ คดีพยายามฆ่า และคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ซึ่งทั้ง 2 กรรีเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง

ปี 2552 มี 2 คดี คือ คดีพกพาอาวุธปืน กระสุนปืน วัตถุระเบิด และคดีบุกรุกในเวลากลางคืน เหตุเกิดพื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง

ปี 2554 คดี พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ เหตุเกิดพื้นที่ สถ.เมืองพัทลุง ปี 2559 คดีฆ่าผู้อื่น เหตุเกิด สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ปี 2560 คดีฆ่าผู้อื่น เหตุเกิด สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ปี 2562 คดีพยายามฆ่าตำรวจ ภาค 8 เหตุเกิด สภ.นาขยาด จ.พัทลุง และคดีพยายามฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าตำรวจทางหลวงพัทลุง เหตุเกิด สภ.เมืองพัทลุง

มหากาพย์ “เสี่ยแป้ง” แหกคุก

“เสี่ยแป้ง” พยายามใช้ครีมตัดเหล็กตัดโซ่ตรวนตัวเอง ระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2566 แต่ไม่สำเร็จ กระทั่งวันที่ 22 ตุลาคม 2566 “เสี่ยแป้ง” ใช้ครีมตัดเหล็กตัดโซ่ตรวนได้หลังจาก ผู้คุมมีการเปลี่ยนโซ่ตรวน ก่อนมีการหลบหนี โดยกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาล สามารถจับภาพ “เสี่ยแป้ง” ช่วงหนีออกจากการคุมขังของเจ้าหน้าที่ไว้ได้ โดยมีการเดินออกมาลิฟท์ของโรงพยาบาลโดยไม่มีพันพันธนาการใดๆ โดยหลังออกจากลิฟท์แล้ว มีรถกระบะมารับพาตัวหลบหนีไป

หลังจากนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุม “เสี่ยแป้ง” พร้อมสั่งให้ตำรวจกองปราบปรามเข้าสนับสนุนการปฏิบัติ ร่วมกับตำรวจพื้นที่ ในการติดตามจับกุมตัว

โดยนับตั้งแต่ วันที่ 23 ตุลาคม 2566 จนถึงต้นเดือน พฤศจิกายน 2566 ตำรวจได้ติดตามกดดัน-ไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” อย่างหนัก ทั้งการบุกค้นบ้านต้องสงสัยที่อาจจะใช้หลบซ่อนตัว การออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพาหลบหนีหลายราย รวมทั้งจับกุมตัวคนสนิทเสี่ยแป้งได้หลายคน แต่ก็ยังไรเวี่แววของ “เสี่ยแป้ง”

ขณะที่ กรมราชทัณฑ์ เองได้มีการออกประกาศเพิ่มเงินรางวัลนำจับล่าตัว “เสี่ยแป้ง นาโหนด” จากเดิมตั้งเงินรางวัล 100,000 บาท เพิ่มเป็น 1,000,000 บาท

กบดานเขาบรรทัด-หนีกระสุน

กระทั่งวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 หลังจากตำรวจหาเบาะแสและติดตามไล่ล่า เสี่ยแป้งบริเวณเทือกเขาบรรทัด โดยมีการนำกำลังปิดล้อมเทือกเขาบรรทัด ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่พบตัวเสี่ยแป้งที่หลบซิ่นตัวบนเขาบรรทัด ก่อนเกิดการยิงปะทะกัน แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจคลาดกับเสี่ยแป้ง ในที่สุด โดยมีการคาดว่าเสี่ยแป้งยังหลบซ่อนบนเขา โดยมีเพียงกางเกงขาสั้น และอาวุธปืน ไม่มีเสื้อ ไม่มีรองเท้า ไม่มีอาหาร

หลังจากเกิดการปะทะระหว่าง เสี่ยแป้ง กับเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าบรเขาบรรทัด ทางตำรวจได้มีการระดมกำลังปิดล้อมเขาบรรทัด และมีการส่งชุดไล่ล่าเดินป่าเพื่อล่าตัวเสี่ยแป้ง รวมทั้งมีชุดปฏิบัติการทางอากาศ และทางน้ำสนับสนุน ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าว กินเวลาเกือบ 17 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 จนถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 แต่ตำรวจก็ไม่สามารถล่าตัวเสี่ยแป้งได้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าตำรวจทุ่มงบประมาณไปกับภารกิจล่าตัวเสี่ยแป้งบนเขาบรรทัดกว่า 10 ล้านบาท

แม้ระหว่างนั้นประชาชนในพื้นที่ที่มีความคุ้นเคยกับเขาบรรทัดจะให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เสี่ยแป้ง ไม่สามารถใช้ชีวิตบนเขาบรรทัดที่มีสภาพเป็นป่าดิบชื้นได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังปักใจเชื่อว่าเสี่ยแป้งยังคงหลบหนีอยู่บนเขา เนื่องจากมีการพบเบาะแสทั้งถุงขนมและรอยเท้าเปล่า ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เองก็ยังคงมั่นใจว่าเสี่ยแป้งอยู่บนเขา หลังจากเกิดการยิงปะทะเจ้าหน้าที่เกือบ 1 สัปดาห์

แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทยอยถอนกำลังจากเขาบรรทัด ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 หลังจากภารกิจไล่ล่าเสี่ยแป้งล้มเหลว

พลิกบทนักโทษแหกคุก! สู่ผู้ร้องขอความเป็นธรรม

หลังจากไร้วี่แววเกือบ 2 สัปดาห์ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ “เสี่ยแป้ง” ผ่านผู้สื่อข่าวในพื้นที่รายหนึ่ง โดยเนื้อหาในคลิปมีการชี้แจงถึงเหตุผลที่หนี เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังบอกว่าเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ประกันตัวในคดี

ก่อนจะแฉคนที่ร่วมขบวนการในคดีที่ร่วมกับพวกเข้าปล้นผู้ต้องหาจากตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด ซึ่งมีทั้ง ตำรวจ อัยการ และอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรวมอยู่ด้วย โดยเสี่ยแป้งย้ำหลายครั้งว่าโดนหลอกให้ไปชิงตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจากตำรวจ พร้อมยื่นเงื่อนไขว่าหากมีการดำเนินคดีกับคนที่ร่วมขบวนการในครั้งนั้น ถึงจะมอบตัว

ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยข้อมูลจากคนใกล้ชิดเสี่ยแป้งว่า เสี่ยแป้งได้หลบหนีลงจากเขาบรรทัด ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 หลังจากเกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งกลายเป็นการสับขาหลอกเจ้าหน้าที่ให้ควานหาตัวบนเขาบรรทัดนานกว่า 17 วัน

หลังจากนั้นเสี่ยแป้งได้ทยอยส่งคลิปเรียกร้องความเป็นธรรมและแฉพฤติกรรมของผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก รวมทั้งหมด 3 คลิป พร้อมมีการตั้งทีมทนายความ และร่างหนังสือขอความเป็นธรรมส่งถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี

จดหมายขอความเป็นธรรมจาก “เสี่ยแป้ง”

เอกสารส่งจากเสี่ยแป้ง นาโหนด จ่าหน้าซองถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พอที่จะสรุปใจความสำคัญได้ดังนี้

ข้อ 1. เสี่ยแป้ง โจมตี บอกว่า ศาลไม่มีความเป็นธรรม ในการให้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว

ข้อ 2. มีการระบุชื่อ พ.ต.ท. (คนหนึ่ง) ว่า เอาทรัพย์สินของผู้ต้องหาตามเอกสารที่กล่าวอ้าง

ข้อ 3. พ.ต.ท. (คนหนึ่ง) เรื่องจับอาวุธปืน ขนาด .38 เมื่อปี 2561 เรียกเงิน 50,000 บาท แลกกับการคืนอาวุธปืนและปล่อยตัว เสี่ยแป้ง อ้างว่า เขาฝากเงินไปกับ ดาบตำรวจ “ช.” ก่อนที่ พ.ต.ท. “ศ.” จะฝากปืนให้ ดาบตำรวจ “ช.” เอามาคืนให้เขา

ข้อ 4. มีการอ้างถึง ผู้บัญชาการเรือนจำ โจมตีว่า ขายสินค้าให้นักโทษเกินราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด และกล่าวหาว่า มีการทำร้ายนักโทษในเรือนจำ

ข้อ 5. โจมตีว่าใน เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช แดน 6/2 มีการทรมานนักโทษ ให้อดยาก กักขังตามอำเภอใจ พร้อมเรียกร้องให้ กรรมการสิทธิมนุษยชนเข้าไปดูแลและคุ้มครอง

ข้อ 6. ขอให้มีการรื้อฟื้นคดีของอัยการ….กับพวก

ข้อ 7. มีการโจมตี อธิบดีอัยการ โดยกล่าวหาว่า เป็นลูกพี่ของ อัยการบอย เรียกรับเงินเขา 5 แสนบาท แต่เพราะตัวเสี่ยแป้งไม่ให้ จึงทำให้เขาถูกฟ้องร้องคนเดียว

โดยช่วงท้าย เสี่ยแป้ง ขอทวงความนุติธรรมให้แก่ตัวเอง และ เขาจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง พร้อมทั้งลงชื่อ เชาวลิต ทองด้วง ผู้ร้องทุกข์

ทั้งนี้จดหมายดังกล่าว ยื่นผ่านว่าที่ ร.ต. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี โดยส่งต่อให้ นายกรัฐมนตรี, กระทรวงยุติธรรม, สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

หลบหนีออกนอกประเทศ

หลังจากส่งหนังสือขอความเป็นธรรมถึงนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานต่างๆแล้ว เสี่ยแป้งได้เงียบหายไป ก่อนที่ในช่วงต้นเดือน ธันวาคม 2566 จะมีกระแสข่าวว่า เสี่ยแป้งขึ้นเรือหลบหนีออกจากประเทศไทยแล้ว โดยมีการเดินทางผ่านเส้นทางท่าเรือตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ไปยังเกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย

ขณะเดียวกันตำรวจได้กดดันบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเสี่ยงแป้ง ทั้งญาติเสี่ยแป้ง และทนายความ เพื่อหาข้อมูลติดตามไล่ล่าเสี่ยแป้ง

ก่อนที่จะมีความเคลื่อนไหวสำคัญจากตำรวจ โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมประสานกับตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดงในการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี หลังคาดว่า "เสี่ยแป้ง" ได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศมาเลเซีย

จากนั้นวันที่ 22 ธันวาคม 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันด้วยตนเองว่า ตำรวจพบว่ารั้วลวดหนามที่ปรากฏในคลิปที่เสี่ยแป้งยืนถ่ายในคลิปเป็นรั้วที่กั้นระหว่างแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่มีพื้นดินติดกัน พร้อมทั้งได้มีการประสานกับผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย โดยประสานผ่านทางกองการต่างประเทศและตำรวจสากล ให้มีการออกหมายแดงดำเนินคดีกับ เสี่ยแป้ง

โดนโทษอีกคดี จำคุกตลอดชีวิต!

ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 เสี่ยแป้ง มีโทษหนักอีกคดี หลังศาลจังหวัดพัทลุง มีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต เสี่ยแป้ง กับพวกรวม 5 คน ในคดีร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเมื่อปี 2562 ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าหลังจากนี้ เสี่ยแป้ง จะกลับเข้ามาต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาหรือไม่

แม้จนถึงวันนี้ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวเสี่ยแป้งได้ แต่งานนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า หลังปีใหม่จะมีความคืบหน้า ดังนั้นก็คงจะต้องรอติดตามข่าวกันต่อไปว่าจุดจบของเสี่ยแป้งจะเป็นอย่างไร

ช็อก! “อีซอนคยุน” นักแสดง Parasite และ My Mister ถูกพบเสียชีวิตในรถยนต์

ทางด่วนฟรี 7 วันรวดช่วงปีใหม่ 2567 เริ่ม 28 ธ.ค.66

โอนเงินชาวรอบที่ 3 กว่า 1.3 แสนครัวเรือน เป็นเงินกว่า 1,100 ล้านบาท