“แก้ว” เป็นชายวัย 37 ปีในประเทศลาว เขาเสพ “ยาบ้า” มานานถึง 17 ปี และปัจจุบันยังอยู่ระหว่างกระบวนการเข้ารับการบำบัดที่ศูนย์ทรานส์ฟอร์เมชันเซ็นเตอร์ ไม่ไกลจากกรุงเวียงจันทน์

ด้วยประสบการณ์ที่เรียกได้ว่าโชกโชน แก้วได้เห็นและสัมผัสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยาเสพติดในประเทศลาว โดยเฉพาะในเรื่องของราคา ที่ทุกวันนี้มีแต่จะถูกลงเรื่อย ๆ

สื่อนอกประเมิน นักท่องเที่ยวจีนกำลังหายไปจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

พบสาเหตุ ช้างแอฟริกันตายปริศนาต่อเนื่องเมื่อ 3 ปีก่อน

สวิตเซอร์แลนด์ผุดเทคโนโลยี ช่วยผู้ป่วยโรคพาร์กินสันกลับมาเดินได้

แก้วบอกว่า ภูมิทัศน์ด้านยาเสพติดของประเทศลาวได้เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาสั้น ๆ “ตอนที่ผมเริ่มเสพ ยาเสพติดไม่ใช่เรื่องธรรมดาขนาดนี้ ตอนนี้มันมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้มันอยู่ทุกที่แม้แต่ในเวียงจันทน์”

ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติบอกว่า อุปทานของยาบ้าในลาวเพิ่มขึ้นทั่วประเทศจนแตะระดับ “ที่ไม่เคยมีมาก่อน” ในปัจจุบัน ปัญหาส่วนหนึ่งคือประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ซึ่งเกิดการรัฐประหารในปี 2021 นำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง สุญญากาศทางกฎหมายและความสงบเรียบร้อย ทำให้กลุ่มค้ายาเสพติดเจริญรุ่งเรือง

ในลาว ตำรวจที่มีกำลังคนและทรัพยากรไม่เพียงพอ กำลังเผชิญกับปัญหายาเสพติดจำนวนมาก เนื่องจากประเทศลาวได้กลายเป็นช่องทางที่สำคัญในการค้ายาเสพติดของเอเชีย จำนวนยาบ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ราคาร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเจ้าหน้าที่แนวหน้ากล่าวว่า ขณะนี้ยาบ้าถูกขายในราคาที่ถูกกว่าอาหารและน้ำ

บุญมี ผู้ช่วยผู้อำนวยการที่ศูนย์บำบัดทรานส์ฟอร์เมชันเซ็นเตอร์ บอกว่า แม้ว่าของทุกอย่างในลาวจะแพงขึ้นในช่วงโควิด-19 แต่ยาบ้ากลับมีราคาถูกลง และถูกลงมากด้วย”

“ผู้ใช้ยาบอกผมว่า ยาบ้า 1 เม็ดตอนนี้มีราคาเพียง 5,000-7,000 กีบ (8-12 บาท) เท่านั้น และถ้าซื้อแบบเป็นแพ็ก 200 เม็ด จะได้ราคาถูกเฉลี่ยเพียง 2,500 กีบ (4 บาท) ต่อเม็ดเท่านั้น” บุญมีกล่าว

เจเรมี ดักลาส ตัวแทนระดับภูมิภาคของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กล่าวว่า ราคาดังกล่าวลดลงมามากจนตอนนี้ลาวเกือบจะเป็นประเทศที่ยาบ้าถูกที่สุดในโลก ควบคู่ไปกับเมียนมาและบางส่วนของภาคเหนือของไทย

“คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินมากเพื่อซื้อยาบ้าในปัจจุบัน มันถูกกว่าเบียร์และข้าวผัดเสียอีก” ดักลาสกล่าว

สามเหลี่ยมทองคำซึ่งเป็นพื้นที่พรมแดนระหว่างไทย เมียนมา และลาวมาบรรจบกัน ถือเป็นแหล่งผลิตยารายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยกลุ่มต่าง ๆ ในเมียนมาถือเป็นหัวใจสำคัญของการค้าขายนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐฉาน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ได้รับความเสียหายจากสงครามทางตะวันออกของประเทศซึ่งมีพรมแดนติดกับลาว

เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่การค้ายาเสพติดถือเป็นช่องทางจัดหาเงินทุนที่สำคัญให้กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และกองกำลังติดอาวุธ โดยมียาเสพติดไหลข้ามพรมแดนเข้าสู่จีน ลาว และไทย และเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

การทำรัฐประหารในเมียนมาเป็นเพียงการเร่งผลผลิตของอุตสาหกรรมเท่านั้น เพราะการล้มล้างรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ทำให้เกิดการประท้วงเป็นวงกว้าง เกิดขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยที่รุนแรงจนถึงระดับที่เป็นการปะทะกันด้วยอาวุธ

ภาวะไร้ขื่อแปที่มากขึ้น ทำให้ความพยายามต่อต้านยาเสพติดของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์บางกลุ่มและทางการเมียนมาถูกขัดขวาง มีรายงานด้วยซ้ำว่า กองกำลังติดอาวุธบางกลุ่มหันมาใช้ยาเสพติดเป็นอาหารและเงินเดือนให้กับทหารของพวกเขา

ดักลาสกล่าวว่า สภาพความวุ่นวายภายในรัฐฉาน เป็นสภาวะที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผลิตยาเสพติด

ความวุ่นวายดังกล่าวส่งผลให้เกิดการหลั่งไหลของยาเสพติดข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว ดักลาสกล่าวว่า “ประเทศลาวเป็นเส้นทางที่มีการต่อต้านน้อยที่สุด กลายเป็นประตูสำคัญสำหรับการกระจายยาเสพติดเข้าสู่ภูมิภาค”

เขาเสริมว่า “เมื่อดูอุปทานยาเสพติด มันอยู่ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ต้องสงสัยเลย ลาวไม่เคยเห็นปริมาณมากเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ผู้ค้าใช้ลาวเพื่อขนย้ายยาจำนวนมหาศาลจากรัฐฉานไปยังตลาดระดับภูมิภาคและต่างประเทศ”

ทางการลาวได้รับชัยชนะอย่างมีชื่อเสียงหลายครั้งในการต่อสู้กับผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนตุลาคม 2021 ที่สามารถจับกุมยาเสพติดครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยสกัดกั้นรถบรรทุกเบียร์ในจังหวัดบ่อแก้วที่บรรทุกยาบ้า 55 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 1.5 ตัน

รายงานเมื่อเดือนมิถุนายนของ UNODC ยังเผยให้เห็นสถิติการยึดยาบ้าในลาว โดยในปี 2022 สามารถสกัดกั้นยาบ้าได้ถึง 144 ล้านเม็ด ขณะที่ปี 2019 และ 2020 ตัวเลขนี้อยู่ที่เพียง 17.7 ล้านและ 18.6 ล้านตามลำดับ

แต่ในขณะที่การจับกุมครั้งใหญ่ถือเป็นหัวข้อข่าวที่ดี เครือข่ายอาชญากรที่อำนวยความสะดวกในการขนส่งกลับไม่ได้ถูกจัดการไปด้วย

แหล่งข่าวที่ขอไม่เปิดเผยตัวตน บอกว่า “การยึดยาเสพติดเป็นเป้าหมายสำหรับตำรวจลาว และการยึดดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นไปในลักษณะเฉพาะกิจ ที่น่าหนักใจกว่านั้นคือ เจ้าหน้าที่มักไม่ทำการจับกุมเลย บ่อยครั้งที่พวกเขาไม่ได้จับกุมคนขับรถด้วยซ้ำ”

แหล่งข่าวกล่าวว่า แม้ว่าจะมีการสมรู้ร่วมคิดระหว่างเจ้าหน้าที่และเครือข่ายอาชญากร แต่โดยทั่วไปเขาเชื่อว่ามีความพยายามอย่างจริงใจจากทางการลาวในการปราบปรามการค้ายาเสพติด

แต่เขากังวลว่า แนวทางปัจจุบันกำลังเป็นไปในทิศทางที่ผิด เนื่องจากปริมาณยาเสพติดที่ถูกยึดอาจเป็นเพียงเศษเสี้ยวของจำนวนยาเสพติดที่เข้าประเทศทั้งหมด

ด้าน คาเรน ปีเตอร์ส เจ้าหน้าที่โครงการยาและสุขภาพระดับภูมิภาคของ UNODC ซึ่งสนับสนุนโครงการฟื้นฟูยาเสพติดในชุมชนในลาวมาเป็นเวลา 8 ปี กล่าวว่า แม้ว่ายาบ้าจะมีราคาถูกลงมาก แต่ ณ ข้อมูลที่มีในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ทำให้เกิดการใช้ยาในวงกว้างมากขึ้นหรือไม่

คณะกรรมการควบคุมและกำกับดูแลยาแห่งชาติลาว ประมาณการว่า จากการสำรวจของรัฐบาล มีผู้ใช้ยาเพสติดประมาณ 90,000 ราย ณ ปี 2023 หรือประมาณ 1% ของประชากร

ปีเตอร์สบอกว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจไม่แม่นยำ เนื่องจากผู้ทำแบบสำรวจอาจตอบไม่ตรงตามความเป็นจริงเพราะกลัวได้รับโทษ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง หากไม่มีวิธีการเก็บรวบรวมที่เหมาะสม เช่น การทดสอบน้ำเสีย และการสำรวจออนไลน์โดยไม่ระบุชื่อ

เธอบอกว่า “ในลาว การใช้ยาเสพติดอาจทำให้คุณต้องเข้าศูนย์บำบัดหรือเรือนจำ ถ้าฉันมีเจ้าหน้าที่รัฐมาเคาะประตูบ้านแล้วถามว่าในบ้านมีคนเสพยากี่คน คุณคิดว่าฉันจะยอมรับเหรอ”

แต่ในขณะที่ยังไม่ชัดเจนว่าราคาที่ลดลงทำให้มีผู้เสพมากขึ้นหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่บุญมีบอกว่ามีความชัดเจนก็คือ มีคนเข้ามาที่ศูนย์บำบัดมากขึ้น “คนสมัยนี้ดูเหมือนจะใช้ยามากขึ้น บางคนกิน 2 หรือ 3 เม็ด หรืออาจจะ 5 เม็ดต่อวัน”

สำหรับแก้ว เขาหวังว่าช่วงเวลาของเขาที่ศูนย์บำบัดทรานส์ฟอร์มเมชันเซ็นเตอร์จะเป็นจุดเปลี่ยน แต่เขาตระหนักดีถึงอิทธิพลที่ยาบ้ามีต่อเขาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา

“ผมพยายามเลิกมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ตื่นขึ้นมาและเริ่มใช้มันใหม่อีกครั้ง แต่มีคนจากหมู่บ้านของผมมาที่นี่ และตอนนี้เขาก็เป็นอิสระแล้ว ผมอยากเป็นแบบนั้นบ้าง” แก้วบอกคำพูดจาก เว็บสล็อต777

เรียบเรียงจาก Al Jazeera

ภาพจาก LILLIAN SUWANRUMPHA / AFP

เผยโฉม 86 สาวงาม ชิง Miss Universe 2023 เงื่อนไขใหม่สาวข้ามเพศ-แต่งงาน-มีลูก เข้าประกวดลุ้นมง

โออาร์-บางจาก ลดเบนซินทุกชนิด สูงสุด 2.50 บาท มีผล 7 พ.ย.66 ตามมติ ครม.

สื่อนอกประเมิน นักท่องเที่ยวจีนกำลังหายไปจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย